28 กันยายน 2564
ความคุ้มครองประชาชนสิทธิบัตรทอง กรณีมีอาการสงสัยป่วย "โรคโควิด-19"
สปสช.แจ้งประชาชนสิทธิบัตรทอง 30 บาท หากมีอาการเข้าข่ายสงสัยป่วยโรคโควิด-19 ตามหลักเกณฑ์ล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขที่ปรับปรุงเมื่อวันที่ 21 มี.ค.63 สามารถเข้ารักษา รพ.ตามสิทธิ ไม่เสียค่าใช้จ่าย หากอาการไม่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ แต่อยากทราบว่าติดเชื้อหรือไม่ ไม่ต้องไป รพ.เพื่อขอตรวจ จะเพิ่มความเสี่ยงรับเชื้อโดยไม่จำเป็น
สำหรับประชาชน สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง 30 บาทนั้น หากมีอาการเข้าข่ายสงสัยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ให้โทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน โดยต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ แจ้งประวัติ ไม่ปกปิดข้อมูลใด ๆ เพื่อตรวจเชื้อ หากพบว่าป่วยเป็นโรคโควิด-19 จะได้รับการรักษาตามขั้นตอนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งโรงพยาบาลตามสิทธิของท่านจะประสานส่งตัวเข้ารับการรักษาอย่างมีมาตรฐานในโรงพยาบาล โดยผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาทไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
หลักเกณฑ์การเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นั้น ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2563 ดังนี้
1.ผู้ป่วยที่มีประวัติไข้ หรือวัดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเร็ว หรือหายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก) และมีประวัติในช่วง 14 วัน ก่อนวันเริ่มมีอาการ คือ
ก.มีการเดินทางไปหรือมาจากประเทศ หรือ อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการรายงานการระบาดต่อเนื่องของ COVID-19 หรือ
ข.เป็นผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวที่มาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดต่อเนื่องของCOVID-19 หรือ
ค.มีประวัติใกล้ชิดหรือสัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยที่ยืนยัน COVID-19 ตามแนวทางการเฝ้าระวังและสอบสวนโรค
ง.เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือสารคัดหลังจากระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วยสงสัยหรือยืนยัน COVID-19 โดยไม่ใส่อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม
จ.มีประวัติไปในสถานที่ที่ประชาชนหนาแน่นที่พบผู้ป่วยยืนยันในช่วงเวลาเดียวกันตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประกาศ
2.ผู้ป่วยปอดอักเสบที่มีประวัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
ก.มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วย COVID-19 หรือ
ข.เป็นบุคลากรทางการแพทย์ หรือ
ค.เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้และรักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้นใน 48-72 ชั่วโมง หรือ
ง.เป็นผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่มีลักษณะเข้าได้กับ COVID-19
3.การพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน
ก.กรณีเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ตั้งแต่ 3 รายขึ้นไป ในแผนกเดียวกันในช่วงสัปดาห์เดียวกัน (หากสถานพยาบาลขนาดเล็ก เช่น คลินิก ใช้เกณฑ์ 3 รายขึ้นไปในสถานพยาบาลนั้นๆ)
ข.กรณีไม่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ตั้งแต่ 5 รายขึ้นไป ในสถานที่เดียวกัน ในช่วงสัปดาห์เดียวกันโดยมีความเชื่อมโยงกันทางระบาดวิทยา
อย่างไรก็ดี พบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่หวาดกลัว แล้วต้องการไปขอรับการตรวจเชื้อจากโรงพยาบาล โดยที่ไม่มีอาการและประวัติการสัมผัสโรคและไม่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังโรคอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งจะส่งผลให้โรงพยาบาลเกิดความแออัด และอาจทำให้ผู้ติดเชื้อตัวจริงเข้าไม่ถึงบริการ
ในกรณีนี้ สปสช.ขอแนะนำประชาชนให้ทำตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไม่แนะนำให้ไปขอตรวจและขอใบรับรองแพทย์เนื่องจาก
1.การไปตรวจหาเชื้อในช่วงที่ไม่มีอาการ โอกาสพบเชื้อน้อยมาก หรือหากตรวจแล้วพบว่าเป็นลบก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่ป่วยจึงไม่มีความจำเป็นที่จะไปขอตรวจ ในขณะที่ไม่มีอาการ
2.การไปโรงพยาบาลโดยไม่มีความจำเป็น จะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อจากโรงพยาบาล และที่สำคัญอาจนำเชื้อต่าง ๆ ไปติดผู้ป่วยในโรงพยาบาลซึ่งมีร่างกายไม่แข็งแรงได้
3.เมื่อมีอาการตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข รีบไปตรวจที่โรงพยาบาลตามสิทธิของท่าน โดยต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ แจ้งประวัติ ไม่ปกปิดข้อมูลใด ๆ
โดยสรุปการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนสิทธิบัตรทอง 30 บาท คือ
1. หากมีอาการเข้าข่ายสงสัยป่วยโรคโควิด-19 รีบไปตรวจที่โรงพยาบาลตามสิทธิของท่าน กรณีไปต่างจังหวัดให้ไปที่โรงพยาบาลของรัฐ เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นผู้เสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 จะถูกส่งตัวรักษาตามกระบวนการของกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
2. หากอาการไม่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ แต่สงสัยเองว่าจะป่วยเป็นโรคโควิด-19 แล้วต้องการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เอง โดยที่แพทย์ไม่ได้วินิจฉัยให้ ต้องจ่ายเงินเอง ทั้งนี้ขอย้ำว่า ในกรณีนี้ไม่แนะนำให้ไปโรงพยาบาลเพื่อขอตรวจเอง แม้จะจ่ายเงินเอง แต่การไปโรงพยาบาลโดยไม่มีความจำเป็น จะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อจากโรงพยาบาล และเพิ่มภาระให้บุคลากรสาธารณสุขโดยไม่จำเป็น
แหล่งข้อมูล https://www.hfocus.org/content/2020/03/18778
การขอใบรับรองแพทย์ประกันชีวิต (ใบเคลม)
การขอใบรับรองแพทย์ประกันชีวิต
ติดต่อยื่นคำร้องด้วยตนเอง ที่
สำนักงานองค์กรแพทย์ อาคารศูนย์หัวใจและมะเร็งฯ ชั้น5
ในวันและเวลาราชการ
โทร 032-719600 ต่อ 1701
........................................
ผู้มีสิทธิ์ขอและหลักฐานในการขอ
ผู้มีสิทธิ์ขอ
หลักฐานในการขอ
ผู้ป่วย
บัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย
คู่สมรส
บัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย
บัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส
ทะเบียนสมรส
บิดา/มารดา
บัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย
บัตรประจำตัวประชาชนบิดา/มารดา
ทะเบียนบ้านผู้ป่วย
บุตรที่บรรลุนิติภาวะ
บัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย
บัตรประจำตัวประชาชนบุตร
ทะเบียนบ้านบุตร
พี่/น้อง/ตัวแทน/ผู้รับมอบอำนาจ
บัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย
บัตรประจำตัวประชาชนผู้ขอ(พี่/น้อง/ตัวแทน/ผู้รับมอบอำนาจ)
หนังสือมอบอำนาจ
1.เอกสารทุกฉบับต้องรับรองสำเนา
15 กันยายน 2564
14 กันยายน 2564
10 กันยายน 2564
ส่งยาถึงบ้าน
แจ้งความประสงค์ที่ลิ้งค์นี้นะคะ
http://www.virtualhos.net/apps/home
สามารถใช้ Password เดียวกันกับ application Hygge (ฮุกกะ)
การขอใบรับรองแพทย์ประกันชีวิต รพ.ราชบุรี
วิธีดำเนินการ
ติดต่อยื่นคำร้องด้วยตนเอง ที่ สนง.องค์กรแพทย์ ชั้น 5 อาคารศูนย์หัวใจฯ
ในวัน เวลาราชการ โทร 032-719600 ต่อ 1701
(เริ่ม 1 ตุลาคม 2561)
ผู้มีสิทธิ์ขอ
| หลักฐานในการขอ |
ผู้ป่วย
| บัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย |
คู่สมรส | บัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย บัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส ทะเบียนสมรส |
บิดา/มารดา | บัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย บัตรประจำตัวประชาชนบิดา/มารดา ทะเบียนบ้านผู้ป่วย |
บุตรที่บรรลุนิติภาวะ | บัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย บัตรประจำตัวประชาชนบุตร ทะเบียนบ้านบุตร |
พี่/น้อง/ตัวแทน/ผู้รับมอบอำนาจ | บัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย บัตรประจำตัวประชาชนผู้ขอ(พี่/น้อง/ตัวแทน/ผู้รับมอบอำนาจ) หนังสือมอบอำนาจ |
1.เอกสารทุกฉบับต้องรับรองสำเนา ระบุ เพื่อใช้ในกรณีขอใบรับรองแพทย์ประกันชีวิต โรงพยาบาลราชบุรีเท่านั้น
09 กันยายน 2564
ค่าธรรมเนียมการเขียนใบรับรองแพทย์
http://www.cmu2807.com/index.php?option=com_content&task=view&id=37&Itemid=33
อดีต จนท.เวชระเบียน
นางสุวนีย์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
นางฉวีวรรณ เลิศตระกูลวงค์
นางเรียมฟ้า บุดดีหงษ์
นางปัทมพร อ้นทอง
3 พฤษภาคม 2553-22 กรกฎาคม 2562
นายคุณัชญ์ ศิริตัน
1 มิถุนายน 2549-28 มิถุนายน 2562
นางสาวสุนิสา เอี่ยมสุวรรณ
1 กุมภาพันธ์ 2523-30 กันยายน 2561
นางสาวกรรณิกา โรจนสุวรพงค์
1 กุมภาพันธ์ 2523-30 กันยายน 2561
1 มกราคม 2547-30 กันยายน 2561
1 ธันวาคม 2525-30 กันยายน 2561
16 มกราคม 2555-18 กุมภาพันธ์ 2561
นางพรสุข เพ่งไพฑูรย์
1 กุมภาพันธ์ 2523-30กันยายน2560
น.ส.จุฑาภรณ์ ภู่จำปา
น.ส.ฐานิตาภรณ์ พรมสุ่ม
16 มกราคม 2555-14 กรกฎาคม 2560
น.ส.ฉัตรนภา โง้วเจริญ
16 มิถุนายน 2560-3 กรกฎาคม 2560
3 พฤษภาคม 2553 - 9 พฤษภาคม 2560
29 กันยายน 2557 - 1 ธันวาคม 2557
29 กันยายน 2557-17 พฤศจิกายน 2557
นายนัทธพงศ์ เพิ่มวงศ์
น.ส.ณัทกาญจน์ เสือเฒ่า
น.ส.ชยาภา แจ่มเจ๊ก
น.ส.คณารัตน์ ผลลาภ
นางปัทมา พุ่มพฤกษา
น.ส.เจนจิรา สังสุข
น.ส.วารุณี ศรีสารคาม
นส.พรมาศ สาระเวก 1 พฤศจิกายน 2543-1 มิถุนายน 2557 |
น.ส.อรวรรณ มีสมบูรณ์
น.ส.วีระพรรณ น่วมภักดี
น.ส.ปาริชาติ โชคอุตสาหะ
นายปพรรษดนัย คชชา
นางสนธนา บรรลือหาญ
น.ส.รัตนาภรณ์ ปาเจริญ
นายธนเศรษฐ์ ท้าวเวชสุวรรณ
นางพิชญานี ชัยมัติ
นายสมชาย เล็บครุฑ
นายมี กลึงชัง
นางลำดวน ภักดีงาม
นส.ปรางค์ทอง พวงทรัพย์
นส.ปวีณา ไชยแสงสาโรจน์
นส.ศิริพร เพียรพยุงพงค์
นส.เบญจวรรณ พงษ์พา